ปลิวลม5 เม.ย. 2550 03:11:00
ธานีเลี้ยวรถพา 3 แม่ลูก เขาไปจอดที่ลานหน้าบ้านพ่อและแม่ของเขา
"แม่ แม่ เสร็จยังนั้น"ธานีตหลียวมองหาพ่อ
"โน้นบนเรือน แต่งตัวตั้งแต่เช้าไม่เสร็จถูก แค่งานบวชนี้"แม่ส่ายหน้า
ธานีหัวเราะ แหะ แหะ เขาไม่แปลกใจที่พ่อจะช้าในวันนี้ วันที่มะพร้าวจะโกนหัว เพราะพ่อของเขาพิถีพิถันในการแต่งตัว ไม่ว่างานไหน
"ไงพี่รุณ เติน เรียบร้อยยัง"แม่ตะโกนถาม
"เออ ใครก็ได้ ช่วยมาเลือกกางเกงให้ที ไม่รู้จะใส่ตัวไหน"เสียงพ่อตอบมาจากบนเรือน เสียงเฮครืนตามมา สรุปว่ายังไม่ได้แต่งตัว ด้วยความตื่นเต้นปลิวลม 5 เม.ย. 2550 10:20:40
ปู่ ย่า พ่อ เริ่มขลิบผมพี่เณร กะทิยืนดูอยู่ห่างๆ งานนี้หมดสิทธิ์ในฐานะเป็นน้อง
"แม่ ไปไหน ให้แม่มาขลิบผม" เสียงพ่อพูดขึ้น
กะทิเลี้ยวมองหาแม่ที่วันนี้อยู่ในสุดสีชมพูแสนสวย แม่กำลังซับน้ำตาตัวเอง แม่เดินไปขลิบผมพี่เณร แล้วน้ำตาก็เริ่มไหลอีก แม่พยายามไม่ให้หยดโดนพี่เณร เสียงแม่พูด พุทธัง สรนัง คัจฉามิ ธัมมัง สรนัง คัจฉามิ สังฆัง สรนัง คัจฉามิ แต่น้ำตาไหลเป็นสาย
"แม่จ๋า แม่ร้องไห้ทำไม"กะทิกระตุกแขนแม่
"แม่ปลื้มใจลูก" แม่ซับน้ำตา
"ลูกก็ร้อง ลูกสงสารพี่เณร โดนมีดบาดที่หัวเป็นแผลเลือดไหล"กะทิสะอื้น
จริงซินะไม่มีใครสนใจเลยว่าเณรจะเจ็บไหม ที่โดนมีดโกนบาด ยังดีนะที่มีกะทิคอยเห็นใจ เฮ้อ.....มัวแต่ปลื้มบุญ
ปลิวลม5 เม.ย. 2550 10:23:53
เลี้ยวมอง=เหลียวมอง
ปลิวลม5 เม.ย. 2550 15:32:25
"น้องเณร กราบพร้อมๆกันนะ"เสียงดังออกมาจากไมโครโฟน แล้วเสียงเล็กๆของเณรน้อยทั้ง 24 รูปก็ดังออกมาอยากพร้อมเพรียง
"อัญชลี วันทนา อภิวาท อัญชลี วันทนา อภิวาท อัญชลี วันทนา อัญชลี"พร้อมการกระทำอย่างพร้อมเพรียง
ปลิวลม 6 เม.ย. 2550 09:20:43
"ไหนใครบ้างที่จะบวชไม่ครบ 20วัน ยกมือซิ"พระอาจารย์ยืดตัวตรง สามเณรหลายรูปยกมือขึ้น อีกหลายรูปเหลียวซ้ายแลขวา ด้วยความไม่แน่ใจ
"น้องเณร จะบวชกี่วัน พระอาจารย์มิอาจกำหนดได้ แต่พระอาจารย์อยากถามว่า น้องเณรอยู่ในท้องแม่กี่วัน" พระอาจารย์ถามต่อ
"9 เดือนครับ" เสียงตอบอย่างพร้อมเพรียง
"นั้นซิ แล้วที่เกิดมาให้เลี้ยงอีกกี่ปี"พระอาจารย์เสียงเข้ม
"10 ครับ"บ้างรูปตอบต่างออกไป
"แล้วทำไมจะทดแทนแค่ 10 วันเล่า"พระอาจารย์มองสามเณรทีละรูป เสียงเงียบทั้งศาลา แต่ละรูปต่างครุ่นคิด ต่างกรรมต่างวาระ
ปลิวลม 6 เม.ย. 2550 21:44:58

นาคกับแม่.........
นิค่ะ 7 เม.ย. 2550 09:36:18
น่ารักดีจัง
ปลิวลม 7 เม.ย. 2550 19:42:42
"เดี๋ยวน้องเณรเดินลงไป แล้วหยิบน้ำปานะคนละแก้ว แล้วเดินไปนั่งรอบศาลา เสร็จแล้วรอจนสามเณรรูปสุดท้ายนั่งลง ค่อยมองแก้วพิจารณา น้ำปานะ ตามที่พระอาจารย์สอน แล้วค่อยดื่มพร้อมๆกัน เข้าใจมั้ย"พระอาจารย์มองลูกเณรอย่างปราณี
"ครับผม" เสียงเณรตอบอย่างพร้อมเพรียง
พระอาจารย์ปล่อยให้เณรเดินลงมาทีละแถว จนถึงแถวที่ 5 พระอาจารย์ทำมือให้นั่งคอยอยู่ก่อน ท่านลุกขึ้นมาดู สามเณรทุกรูปยืนไม่เป็นที่เป็นทาง
"อ้าว.....ทำไมไม่ทำตามที่พระอาจารย์บอกละ"พระอาจารย์ถามเณร
สามเณรต่างมองหน้ากัน แล้วเดินกลับขึ้นไปบนศาลา เฮ้อ....พอดีน้ำปานะจืดชืด ....ห่มผ้าเหลืองนี้ยากกว่าที่คิด
อภิญญา 7 เม.ย. 2550 22:26:11
เห็นด้วยค่ะ น่ารักค่ะ
ปลิวลม 9 เม.ย. 2550 00:34:28
หลังจากยวชได้ 5 วัน เณรก็วิ่งมาบอกโยมพ่และโยมแม่ในเย็นวันหนึ่ง
"ผมจะสึกแล้วครับ ผมบวช 10 วันพอ"เณรกล่าวหนักแน่น
"ยังไงก็ได้ โยมพ่อบอกพ่อไม่ว่า"โยมพ่อดีใจจนออกนอกหน้า
"แม่ไม่ยอม"โยมแม่เสียงหนักแน่นเช่นกัน
พ่อหน้าเสียที่แม่ไม่เห็นด้วย
"ทำไมถึงคิดสึก"โยมแม่ถาม
"ผมต้องตื่นเช้าทุกวัน ไม่ไหวแล้วหิวด้วย"เณรบอก
"แค่นี้ก็จะสึกแล้วหรือ เสียแรงตั้งใจ กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียวนะเณร คิดให้ดี หิวตอนเย็น โยมแม่เอานมมาให้ก็ฉันซิ แม่ถามคำเดียว ลูกบวชเองใช่มั้ย ไม่มีใครบังคับ พระเณรมีมารผจญต้องสู้นะ เกิดเป็นคนต้องไม่ตระบัดสัตย์ หากลูกทำครั้งนี้ไม่สำเร็จ ลูกจะไม่สามารถทำอะไรสำเร็จได้เลย "เสียงแม่เริ่มสั่น
เณรมองหน้าโยมแม่แล้วก้มหน้า
"ครับ ผมจะอยู่ให้ครบ 20 วัน และอาจเลย ถ้าผมทำได้"เณรเงยหน้ามองโยม
"ดี..โยมก็หวังเช่นนั้น"โยมแม่มองหน้าเณรแบบสงสาร เณรคงไม่รู้หรอกว่าแม่ก็ดีใจไม่น้อยไปกว่าพ่อที่เณรจะกลับบ้าน แต่ด้วยความเป็นแม่ชีวิตลูกต้องไม่สุกเอาเผากิน ทุกอย่างต้องเดินตามหลักการ ลูกผู้ชายต้องมีวาจาสัตย์ บอกจะทำต้องทำให้ได้และทำให้สำเร็จ ต้องคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนทำ เมื่อทำแล้วต้องอดทนต้องสู้ จนถึงที่สุด และไม่ยกเลิกกลางคัน นี้คือ ธรรมะของชีวิต ที่แม่สามารถให้ลูกได้
ปลิวลม 9 เม.ย. 2550 00:48:02
พ่อมองหน้าแม่แบบงง เมื่อเลี้ยวรถออกมาจากวัด
"ทำไมไม่ให้ลูกสึก นอนร้องไห้ทุกคืน"พ่อจ้องหน้าแม่
"แม่ร้องไห้เพราะคิดถึงลูก ปัญหาอยู่ที่แม่ไม่ใช่อยู่ที่ลูก"แม่โต้ตอบ
"แล้วเกิดลูกหนีจะว่ายังไง อายคนอื่นรู้มั้ย"พ่อเริ่มเสียงสูง
มีเณรที่บวชในครั้งนี้หนีกลับบ้านแล้วสองรูป เนื่องจากผ้าเหลืองร้อน พ่อเลยกลัวว่าจะเกิดกับเณร
"หนี ก็ลูกเรา ไม่หนีก็ลูกเรา แต่น้องแน่ใจว่าลูกเราต้องมีสติและรู้เรื่อง ละอายต่อบาป ไม่กล้าทำความผิดต่อผ้าเหลืองแน่นอน" แม่มองไปข้างหน้า
พ่อถอนใจ และไม่พูดอะไร เพราะรู้ว่าหากแม่ตั้งใจแล้วอย่างไรเสียก็ไม่ยอมลดละแน่ เถียงไปก็เท่านั้น
อภิญญา 9 เม.ย. 2550 09:11:57
อ่านเพลินเลยค่ะ คุณปลิวลม ตกลงน้องเณรเปลี่ยนใจเอง หรือเพราะกลัวคุณแม่คะ.. แต่คิดว่าน้องเณรคงได้คิดเอง...ลงต่อเรื่อย ๆ นะคะ ชอบอ่าน จะได้รู้ความเป็นไปของน้องเณร....เดี๋ยวคุณป้าก็จะไปถือศีลอดข้าวเย็นเหมือนกันค่ะ..
ปลิวลม 9 เม.ย. 2550 09:22:32
ทางเดินสามเณร
"สวัสดีค่ะ คุณปลิว"เสียงเจ๊ริดังมาตามสายโทรศัพท์
"สวัสดีค่ะ"ปลิวลมตอบพร้อมหวนนึกถึงเจ้าของเสียง ผู้มีจิตใจเมตตากรุณา ชอบช่วยเหลือผู้อื่นและทำบุญทำทานอย่างยิ่ง
"พี่ได้ข่าวว่าลูกคุณปลิวบวชเป็นสามเณรแล้ว"เจ๊ริพูดต่อ
"ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าค่ะ"ปลิวลมรีบถามด้วยความอยากรู้ตอนนี้ เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับเณรคือเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ที่สวนปฏิบัติธรรมทีปภาวันของเจ๊จิ๋ม จะมีเณรจากสวนโมกข์ และท่านอาจารย์โพธิ์มาจำวัด วัน ที่ -15-17 เมษา ถ้าคุณปลิวอยากให้ลูกเข้าร่วมก็ยินดีค่ะหรือจะให้ติดรถกลับไปหาท่านพุทธทาสก็ดีนะคะ"เจ๊ริพูดสุภาพตามบุคคลิก
"ค่ะ หรือ คะ...." ปลิวลมพูดอะไรไม่ออกเดินทางสายท่านพุทธทาส คือการสร้างบารมีอย่างแรงกล้า สมองหมุนติ้ว คิดอะไรไม่ออก นี้คือข้อเสนอที่ยิ่งใหญ่ คงต้องให้เณรตัดสินใจเอาเอง
ปลิวลม9 เม.ย. 2550 09:29:31
อนุโมทนากับคุณป้าอภิญญานะคะที่จะเจริญธรรม ตอบไม่ได้คะว่าเณรเปลี่ยนใจเพราะอะไร แต่ที่สำคัญ เณรก็ยังเป็นเด็กต้องการคนคอยชี้แนะอย่างถูกต้อง การจัดกิจกรรมต่างๆของวัดหากไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ ย่อมดึงดูดใจได้ยาก ตรงนี้คิดว่าวัดพระธรรมกายทำได้ดีและมีประสบการณ์สูง .......เฮ้อ.......เอาเท่าที่ได้นะคะ อย่างน้อยก็ได้ห่มผ้าเหลือง
สีน้ำฟ้า 13 เม.ย. 2550 12:43:16
เข้ามาติดตามค่ะ
ปลิวลม 15 เม.ย. 2550 19:48:36
"โยมพ่อ เก็บเงินนี้ไว้นะครับ"เณรส่งเงินให้กับพ่อ
"เณรไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ" พ่อรู้สึกตกใจที่เห็นเณรน้อยมีเงินในมือ 500 บาท ทั้งที่ไม่ได้ไปหาหลายวัน
"ผมรับนิมนต์แล้วก็มีคนมาทำสังฆทานครับ"เณรอมยิ้มแล้วตอบ
"งั้นหรือ"พ่อตอบรับแบบงง
สำหรับพ่อลูกอายุเพียง 10 ปี ไม่เคยคิดจะได้รับเงินจากลูก เมื่อลูกยืนให้แม้เพียงน้อยนิดก็อิ่มใจ
อภิญญา 16 เม.ย. 2550 22:21:35
ยังตามอ่านนะคะ
ปลิวลม17 เม.ย. 2550 15:39:28
"พี่เณร ครับพี่เณร"เณรมะพร้าวส่งเสียงเรียก เณรผู้สูงอายุกว่าที่จำวัดอยู่กลดข้างๆ
"ไร น้องเณร จะเอาไร" เณรผู้พี่ตอบรับ จริงๆยังไม่ได้จำวัดเพราะคืนนี้เป็นคืนแรก ที่ออกธุดงค์ปักกลดในป่าช้า วัดนอก ที่ได้ชื่อว่า เฮี้ยนสุดๆในเกาะสมุย ทั้งเณรและพระที่มาอบรมนิสัย จะต้องผ่านป่าช้านี้เพื่อบ่มจิต
"ผมไม่ไหวแล้วครับ ผมต้องไปฐาน"เณรมะพร้าวเสียงสั่นเพราะความกลัวปนกับปวดท้อง ไม่น่าดื้อเลย พระอาจารย์อุตส่าห์สั่งแล้วเชียวว่าอย่าฉันมาก ตอนเพล แต่ขนมจีนของโปรด ไม่อาจละเว้นได้
"มีใครไปฐานมั้ย"พี่เณรส่งเสียงให้เณรอื่นๆได้ยิน
"ไปครับไป" เสียงดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
เออแน่ะ ไม่กล้าอยู่โดยไม่มีพี่เณร หรือปวดฐานจริง พี่เณรผู้อาวุโสสุดถอนหายใจค่ำคืนนี้คงอีกยาวนาน ลองเริ่มต้นแบบนี้
ปลิวลม 17 เม.ย. 2550 20:06:23
คำว่า ฐาน ไม่แน่ใจว่าเขียนอย่างนี้หรือเปล่า แต่พระในภาคใต้จะใช้พูดกัน หมายถึง ห้องน้ำ หรือ ห้องส้วม ค่ะ
ปลิวลม โพสต์เมื่อ: Apr 22 2007, 08:31 AM
"เณรเมื่อไรจะสึกสักทีละ ยังต้องไปโรงเรียน" พ่อถามลูกชาย
"ครับ เดี๋ยวผมบอกหลวงตาหาฤกษ์"เณรตอบผู้เป็นพ่อ
"ถ้าเณรสึกมาแล้ว พ่อจะซื้อสกูตเตอร์คันเล็กไว้ขี่เล่นในสวนให้คันหนึ่ง"พ่อพูดจร ิงจัง
"ไม่ต้องเอารถมาล่อผม ผมชอบบวช และอยากอยู่ต่อจนกว่าจะเปิดเทอม"
พ่อถอนหายใจ เออ เอาซิ เอาจริงเสียด้วย แม่นั่งยิ้มไม่พูดอะไรแต่สีหน้าแม่ชื่นชมลูกชายอย่างเหลือล้น









--------------------
ผีเมืองกระซิบ
http://www.oknation.net/blog/pliewlomปลิวลม โพสต์เมื่อ: May 1 2007, 10:43 AM
"แม่จ๋า แม่รู้มั้ยว่าเมื่อกี้ลูกอธิษฐานว่าอะไร"กะทิทำเสียงออดอ้อนแม่ หลังจากใส่บาตร พี่เณรเรียบร้อยแล้ว
"ไม่รู้ซิลูก อธิษฐานว่าอะไรหรือ"แม่ก้มลงมองลูกสาวแบบเอ็นดู
"ลูกอธิษฐานขอให้เกิดเป็นผู้ชายจะได้บวช แม่จะได้รักมากๆเหมือนรักพี่เณร"กะทิตอบเสียงอ่อยๆ
แม่หยุดยิ้ม พูดไม่ออก โธ่...ลูกนี้แม่ทำให้ลูกรู้สึกด้อยค่าเพียงนี้เชียวหรือ แม่ขอโทษนะกะทิ แม่ไม่ได้ตั้งใจ แม่ดึงลูกสาวเข้ามากอด พูดอะไรไม่ออก

--------------------
ผีเมืองกระซิบ
http://www.oknation.net/blog/pliewlomชุติมา โพสต์เมื่อ: May 1 2007, 04:32 PM
โอ๋ กะทิขา,
ป้าชุว่ากะทิคิดไปเองแน่ ๆ เลยว่าคุณแม่รักกะทิน้อยกว่ารักพี่เณร ความจริง
แล้วมีลูกกันอยู่แค่สองคน ยังไงคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องรักทั้งสองนั่นแหล่ะค่ะ เพียงแต่
ตอนที่พี่มะพร้าวบวช ทุกคนอาจจะมุ่งช่วยให้การบวชเสร็จเรียบร้อยด้วยดี กะทิก็
เลยอาจจะรู้สึกว่าถูกรักน้อยลง
อย่าน้อยใจไปเลยนะคะ ป้าว่าคุณแม่รักกะทิไม่น้อยไปกว่าที่รักพี่มะพร้าว หรือพี่เณร
ของกะทิค่ะ
ปลิวลม โพสต์เมื่อ: May 2 2007, 08:10 AM
"อยากรู้จังว่า ไอ้หน้าดำนี้ไปบวชทำอะไร" กะทิพูดเสียงสั่น
"เขาดำ..หน้กส่วนไหน..ช่วยบอกหน่อย" เสียงมะพร้าวดังตอบโต้
แม่ชงักมือที่กำลังพิมพ์หนังสือ เฮ้อ..บทเพลงของชีวิตเริ่มบรรเลงอีกแล้ว..เบาหูไปเสียนาน วันนี้ ยุทธจักรเริ่มเดือดอีกแล้ว แม่นึกขำในใจ แต่ก็อดตะโกนออกไปไม่ได้ว่า
"อะไร กันนะ พูดจาไม่เห็นเพราะเลย"
"ก็พี่เณร ซิแม่จ๋า แกล้งลูก บวชแล้วนิสัยยังแย่เหมือนเดิม"กะทิหันไปค้อน
"หึ หึ ก็ยังดีกว่าคนขี้ฟ้อง นอนตื่นสายไม่คิดช่วยทำอะไร"มะพร้าวตอบโต้
"เค้าไม่ทำ มีอะไรไหม แม่บอกว่าผู้หญิงก็มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่จะยอมให้ใช้อย่างเดียว ใช่มั้ยแม่จ๋า"ประโยคหลังหันมามองหน้าแม่
"เออ ก็ใช่ เอ๊ย ไม่ใช่ "แม่มองหน้ากะทิ
"แม่หมายความ เราต้องรักเกียรติและภูมิใจในความเป็นผู้หญิงแต่ไม่ได้หมายความจะไม่ช่วยผู้ชายทำงานนะลูก"แม่บอกกะทิแบบใจเย็น
"ไงละ...อวดรู้ ดีนัก"พร้าวมองหน้าน้อง
"ไม่สนหรอก ไม่ทำซะอย่างจะทำไม"กะทิพูดแบบหัวดื้อ
แม่ถอนหายใจ เฮ้อ สรุปว่าเข้าใจแต่ขี้เกียจ เลยอ้างโน้นนี่ อย่างนี้สมควรมั้ย.....หึม หึม
โพสได้แก้ไขโดย ปลิวลม เมื่อ May 2 2007, 08:13 AM
--------------------
ผีเมืองกระซิบ
http://www.oknation.net/blog/pliewlomปลิวลม โพสต์เมื่อ: May 5 2007, 10:13 AM
"แม่จ๋า แม่จ๋า เร็วๆเข้า เค้าจะรื้อหมุดที่ บ้านเรา"กะทิตะโกนเสียงดังมาจากหน้าบ้าน พ่อรีบวิ่งออกไปดู แม่ตามไปติดๆ รื้อหมุดที่ ได้ยังไง นะ
"ไหน..ลูกไหน"พ่อมองหน้ากะทิ
กะทิชี้ไปที่พนักงานโทรศัพท์สองคนที่กำลังดึงเสาโทรศัพท์ขึ้นจา กหลุม แล้วหันมามองหน้าสองพ่อลูกแบบสงสัย
"อันนี้เขาไม่เรียกหมุดหลอกกะทิเขาเรียกเสาโทรศัพท์ลูก"พ่อบอกก ะทิ
"ลูกนึกว่าหมุด เห็นแม่ชี้ว่าอยู่ตรงนั้น"กะทิชี้แจ้ง
พ่อมองหน้าแม่ที่อมยิ้มลูกสาวแสนรู้ พ่อเลยพากะทิไปดูหมุดเพื่อจะได้รู้จักไม่สับสนอีกโพสได้แก้ไขโดย ปลิวลม เมื่อ May 5 2007, 10:15 AM
--------------------
ผีเมืองกระซิบ
http://www.oknation.net/blog/pliewlomปลิวลม โพสต์เมื่อ: May 8 2007, 06:31 PM
อย่างนี้ต้องปิดซอย
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อกะทิวิ่งออกจากบ้านแบบไม่ระวัง เลยโดนรถมอเตอร์ไซด์เฉี่ยว โชคดีที่ไม่เป็นอะไรแค่ตกใจเท่านั้น
"เป็นไงบ้างลูก" แม่รีบวิ่งเข้าไปกอดกะทิ
"ฮือ..ฮือ.."กะทิร้องไห้ด้วยความตกใจ
แม่พาลูกสาวเข้าบ้าน พร้อมกล่าวเตือน "ทีหลังจะออกจากบ้าน ต้องระวังหน่อยนะเดี๋ยวนี้รถมากแล้วก็วิ่งเร็ว"
กะทิปาดน้ำตา แล้วก็เอ่ยกับแม่ว่า"ถ้าวิ่งเร็วแบบนี้ ก็อย่าวิ่งเลย"
"หมายความว่ายังไง"แม่ถาม
"ลูกจะปิดซอย"กะทิบอก
"หา..อะไรนะ"แม่พูดแบบตกใจ
"ปิดยังไง"แม่ถาม
"ไม่รู้คิดก่อน"กะทิพูดเบาๆ
แม่ได้แต่นิ่งเพราะไม่รู้จะพูดอย่างไร งานนี้คงต้องอธิบายกันยาวเลยหละกะทิเอ๊ยยยยยยยยยยยยโพสได้แก้ไขโดย ปลิวลม เมื่อ May 8 2007, 06:37 PM
--------------------
ผีเมืองกระซิบ
http://www.oknation.net/blog/pliewlomชุติมา โพสต์เมื่อ: May 10 2007, 03:00 AM
โล่งอกไปทีที่กะทิไม่เป็นอะไรมาก ว่าแต่คิดวิธีปิดซอยได้หรือยังคะ
ปลิวลม โพสต์เมื่อ: May 15 2007, 08:10 AM
น่ากลัวจะคิดไม่ออก แล้วก็ลืมแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังเห่อ โรงเรียนค่ะ เพิ่งเปิดเทอมอยู่ ป1.ไว้รอให้เขาเขียนจดหมายเองนะคะ
--------------------
ผีเมืองกระซิบ
http://www.oknation.net/blog/pliewlomสีน้ำฟ้า โพสต์เมื่อ: May 23 2007, 05:13 AM

ไว้รอเรื่องเล่าตอนเปิดเทอมต่อค่ะ พี่ปลิวลม
----------------------
คิดถึง..ไปหาได้ทุกเมื่อนะคะ...
-----------------------------------------------------------
ลานอักษร สีน้ำฟ้า ณ โอเคเนชั่น
อภิญญา โพสต์เมื่อ: May 23 2007, 05:14 PM
คิดถึงหนูกะทิ และ มะพร้าว เปิดเทอมคงมีเรื่องสนุก ๆ มาเล่าให้ป้าฟังนะคะ

--------------------
จะขี่ไม้กวาดไปตามหาฝัน...เข้าไปเยื่ยมชมบ้านในฝันได้ที่นี่ค่ะ
http://apinya07.spaces.live.comนิค่ะ โพสต์เมื่อ: Jun 28 2007, 02:21 PM
มาบอกคิดถึง กะทิกับมะพร้าว และครอบครัวคุณปลิวลม ตามคุณอภิญญาด้วยค่ะ
คงกำลังคร่ำเคร่งกับการเรียนอย่างหนัก เอาใจช่วยนะคะ
--------------------
http://nilubol.spaces.live.comhttp://chutimasevikul.spaces.live.com