กุมภาพันธ์ 19, 2019, 05:41:41 pm
เว็บบอร์ด
ค้นหา
กระทู้ล่าสุด
หน้าแรก
สมุดภาพ
ช่วยเหลือ
สมัครสมาชิก
การเข้าสู่ระบบ
การปรับแต่งข้อมูลในฟอรั่ม
วิธีการตั้งกระทู้
ข้อความส่วนตัว
การค้นหา
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
ชื่อผู้ใช้งาน:
รหัสผ่าน:
:
สมัครสมาชิก
ติดต่อเรา
Psevikul
>
มุมสนทนา
>
ห้องสมุดเรื่องสั้น
> หัวข้อ:
คนงานรังวัด
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
ผู้เขียน
หัวข้อ: คนงานรังวัด (อ่าน 2994 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Rass
Full Member
กระทู้: 118
คนงานรังวัด
«
เมื่อ:
สิงหาคม 07, 2010, 08:56:59 am »
คนงานรังวัด....
ราส์ส กิโลหก.
คนที่ทำงานเป็นช่างรังวัด ต้องมีคนงานรังวัดเป็นลูกน้องซึ่งต้องออกไปทำงานร่วมกัน ลำพังช่างรังวัดต่อให้เก่งแค่ไหนก็ทำงานคนเดียวไม่ได้ ต้องพึ่งพาพวกคนงานเหล่านี้ ใครที่ได้ลูกน้องดีขยันขันแข็ง ก็สบายตัวไปไม่ต้องปากเปียกปากแฉะ เหนื่อยกายแล้วยังต้องเมื่อยปากอีก หากต้องเจอคนงานโง่ๆเซ่อๆต้องตะโกนกันลั่นทุ่งเพื่อให้ทำงานให้ถูกต้อง
การเป็นคนงานรังวัดไม่ใช่เป็นกันได้ง่ายๆ ต้องมีความสามารถพิเศษในการอ่านระยะจากสายวัดระยะ แต่ศัพท์ทางช่างกรมที่ดินเรียกว่า โซ่ ถ้าเรียกชื่อเต็มๆเรียกว่าโซ่ลาน ความยาวทั้งเส้น 40 เมตร ลักษณะเป็นเหล็กแบนๆกว้างเท่าเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก เล็กกว่าเส้นหมี่โคราชเล็กน้อย บนเส้นโซ่จะมีตุ่มทองเหลืองเล็กๆเพื่อแสดงตำแหน่งระยะ ความยาวของตุ่มเหล่านี้ยาว ช่วงละ 40 เซนติเมตร ทั้งเส้นจะมีอยู่ 100 ตุ่มถ้ารวมกันจะยาวทั้งสิ้น 4000 เซนติเมตร ก็คือ 40 เมตรนั่นเอง
ถ้านับจากปลายโซ่ด้านหนึ่ง เมื่อครบ 10 ตุ่ม ตุ่มที่ 10 จะไม่เป็นตุ่มคือจะเป็นแผ่นทองเหลืองลักษณะแบนๆ มีตัวเลข 1 กำกับไว้ให้รู้ว่าตรงนี้คือ 10 ตุ่มถ้านับต่อเนื่องมาอีก 20 คุ่ม ก็ทำนองเดียวกันจะมีตัวเลข 2 กำกับไว้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แต่ที่แปลกคือมันจะไปสุดแค่เลข 4 เพราะตรงตุ่มทองเหลืองที่ 50 จะไม่เขียนว่าเลข 5 เป็นเพียงเครื่องหมายแบ่งครึ่งคือมีขีดอยู่ที่กลางแผ่นทองเหลือง และถ้านับต่อไปจากจุดนี้ไปตุ่มที่ 60 จะไม่มีเลข 6 แต่กลายเป็นเลข 4 หมายความว่า การอ่านระยะของโซ่เส้นนี้จะอ่านจากทางด้านต้นก็ได้ หรือทางด้านปลายก็ได้..
นั่นคือ ถ้าอ่านจากด้านหนึ่ง นับไปจนถึง เลข 4 ถัดไปถึงกึ่งกลางก็คือหมายถึงตุ่มที่ 50 นั่นเอง ถ้านับเลยไปอีกจะพบเลข 4 อีกนั่นหมายความว่า มันคือ 60 ตุ่ม ถัดไปอีก เมื่อพบเลข 3 มันคือ 70 ตุ่ม ..ถึงบอกว่าคนที่ไม่มีความชำนาญจะอ่านระยะจากโซ่เหล่านี้ไม่ได้เลย....ที่สำคัญในระหว่างตุ่มต่างๆที่ยาว 40 เซนติเมตร ต้องใช้ความเม่นยำในการกะระยะ...คือ 10 ช่วงๆละ 4 เซนติเมตร เช่นในการขานระยะ...คนงานรังวัดจะอ่านว่า..
“ลูกพี่ ครับ ระยะวัดได้ 1 เส้น 25 ข้อ 3 ปอย 6”
ชาวบ้านหรือคนทั่วไปไม่รู้หรอกว่ามันเป็นระยะเท่าใด จะอธิบายให้ฟัง..
ระยะที่วัดนี้ถ้าคำนวณเป็นเมตรก็คือ
1 เส้น คือ 40 เมตร
25 ข้อคือ 25 ตุ่มทองเหลืองความยาวตุ่มละ 40 เซนติเมตรคือ 25X0. 40 = 10 เมตร
3 ปอยคือ 3 ส่วนใน 10 ส่วนของ 40 เซนติเมตร คือ 3X0.04 = 0.12 เมตร
คำสุดท้ายอ่าน 6 หมายความว่า 6 ส่วน ใน 10 ส่วนของ 4 เซนติเมตร ซึ่งแยกย่อยลงไปอีก คือ 0.024 เมตร
สรุประยะนี้คือ 40+10+ 0.12+0.024 = 50.144 เมตร..
คิดดูแล้วกันว่าถ้าคนทั่วไปหรือคนงานทั่วไปจะไม่สามารถทำงานเป็นคนงานรังวัดได้ ยังๆ ยังไม่หมด คนงานรังวัดต้องล่อห่วงคะแนนเป็น(ห่วงคะแนนคือเหล็กกลมยาวประมาณ 1 เมตรด้านหนึ่งแหลมส่วนอีกด้านทำเป็นห่วงเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 เซนติเมตรสำหรับจับ) วิธีการคือ....
ในการวัดระยะต้องใช้คนงาน 2 คน (ถ้าใช้คนเดียวคงต้องนับก้าวเอา)..คนหนึ่งอยู่ที่ปลายโซ่ด้านหน้า เรียกว่าโซ่หน้า คนนี้ต้องถือห่วงคะแนนไว้ด้วยอย่างน้อยต้อง 5 อันเป็นมาตรฐาน เอามือจับที่หัวโซ่แล้วเดินไปยังตำแหน่งที่ต้องการวัดระยะ ส่วนคนที่ 2 เรียกว่าโซ่หลัง จะมีหน้าที่ปล่อยโซ่ออกจากจานโซ่ (จานโซ่เป็นเหล็กลักษณะกลมสองแผ่นประกบกันโดยมีแกนเหล็กยึดไว้ให้สองแผ่นติดกัน เพื่อให้มีช่องว่างของจาน ข้างๆจานโซ่จะมีเดือยยื่นออกมาพอสมควรเพื่อใช้ในการหมุน อีกด้านของจานจะมีสายรัดเป็นหนังเพื่อเอามือสอดเข้าไป เส้นโซ่จะม้วนตัวอยู่ในแกนของจานโซ่ เหมือนเชือกว่าว ที่ม้วนอยู่ที่กระป๋องนม เพียงแต่จานโซ่จะดีกว่าเพราะมีแกนหมุนให้เส้นโซ่เข้าหรือออกได้สะดวกกว่า)
เมื่อเดินจนหมดเส้นโซ่ คือระยะที่ต้องการวัดยาวกว่าเส้นโซ่ คนที่อยู่โซ่หน้าจะควักเอาห่วงคะแนนออกมา เอานิ้วคีบที่ปลายห่วง เพื่อให้น้ำหนักของเหล็กได้แนวดิ่งกับพื้นดิน คนที่อยู่โซ่หลังจะใช้สัญญาณมือ เพื่อบอกว่าให้ไปทางซ้ายหรือขวา จนกว่า จุดด้านหลัง จุดด้านหน้า และห่วงคะแนน จะอยู่ในแนวเดียวกัน คนที่อยู่โซ่หลังจะตวัดมือลงพื้นดิน หมายความว่าให้คนล่อห่วงคะแนนปล่อยเหล็กให้ลงดิน เมื่อเหล็กปักลงดินแล้ว คนโซ่หลังจะใช้สายตา( เซอร์เวย์ ) เล็งอีกครั้งว่า ทั้งสามจุดได้แนวเดียวหรือไม่ ถ้าได้แนวก็จะพยักหน้าตกลงเป็นอันใช้ได้
พวกเขาจะทำอย่างนี้ไปจนกว่าจะถึงจุดหมายที่ต้องการ คนที่ขานระยะคือโซ่หลัง..เช่น
“ลูกพี่ครับ ระยะนี้ 3 เส้น 30ข้อ 5 ปอย 6” คือจากระยะนี้ไม่ถึง 4 เส้น (หมายถึงห่วงอยู่ในมือของเขา 3 อัน เพราะเขาต้องถอนเหล็กออกทุกครั้งที่การวัดระยะผ่านไป) ไม่ต้องล่อห่วงอันที่ 4 นั่นคือระยะนี้ 3 เส้นกว่าๆ
พูดถึงจานโซ่ คนงานที่ชำนาญเขาจะม้วนเส้นโซ่เข้าจานได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่นาน เส้นโซ่ ยาว 40 เมตรจะหายวับเข้าไปในจานโซ่ เหมือนเล่นกล..คุณสมบัติของโซ่ลานนั้นเป็นเหล็กผสม มีความเหนียวและทนทาน แต่เปราะ คือถ้าโซ่บางส่วนม้วนเป็นคอไก่ถ้าไม่รีบคลายให้ตรง ยังดึงต่อไปมันจะหัก เปาะทันที ต้องไปให้ร้านที่บัดกรีสังกระสี จัดการเชื่อมต่อให้ใหม่ แต่ถ้าดึงกันตรงๆพวกคนเก่าๆเล่าว่าให้ช้างมาดึงโซ่ก็ไม่ขาด ไม่รู้จริงหรือเท็จไม่เคยลองซักที
ขอพูดถึงห่วงคะแนนบ้าง นอกจากจะใช้วัดระยะแล้วยังเป็นเครื่องมือใช้ทิ่มแทงลงไปในที่ดินเพื่อค้นหาหลักเขตเก่าอีกด้วย
ครั้งหนึ่งไปทำการรังวัดในท้องที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง...
“อ้ายเบี้ยว มึงไปแทงหาหลักเก่า ตรงโคกหัวนาข้างหน้า เจ้าของที่ดินบอกว่า มีหลักเก่าอยู่”
ตอนนั้นเป็นหน้าหนาว ลมหนาวพัดตึงๆท้องนาแห้งมีแต่กอซังข้าว อ้ายเป๋ กับอ้ายง่อย ที่ยืนอยู่ข้างๆนึกสนุก พวกมันถือห่วงคะแนนคนละอัน วิ่งตามอ้ายเบี้ยวไปด้วย... ด้วยความคะนองร้อง เย้ๆๆกันสนุกปาก วิ่งไปได้ประมาณ 2 เส้น ได้เรื่องครับได้เรื่อง..
ตรงป่าละเมาะบนโคกใหญ่ที่พวกคนงานกำลังจะผ่านไป..มีเสียงคนร้องโวยวายด้วยความตกใจมาจากป่า สักพักเห็นมีผู้หญิงแก่3 คนนุ่งผ้าถุง วิ่งเตลิดออกไปด้านหลังป่า แต่ละคนอุ้มไหออกไปด้วย...แป๊บเดียวหายเงียบเข้าป่าใหญ่ไปเลย..
ลุงน้อยเจ้าของที่ดินบอกว่า มันคงนึกว่าเจ้าหน้าที่สรรพสามิตมาแทงไหเหล้า คนวิ่งนำหน้าคือ อีปริก อี่นี่ชอบหมักเหล้าขาย..
*************************************
คนงานรังวัดที่อายุงานมากๆพวกนี้เขี้ยวรอบตัวถ้ามีช่างย้ายมาใหม่ๆ มักโดนพวกนี้แหกตาอยู่บ่อยๆ...
“พี่ครับ” เสียงนรชาติ ช่างรุ่นน้องที่ย้ายมาใหม่จากกรุงเทพฯ พูดขึ้นที่หน้าโต๊ะ
“มีอะไร นรชาติ”
“โซ่ที่นี่เปราะจังเลยพี่ ผมออกไปรังวัดทีไรโซ่หักทุกครั้งเลย หลายหนแล้ว เสียทั้งเวลาและเงินค่าจ้างที่ต้องเพิ่มขึ้น เพราะต้องออกไปใหม่อีก ”
“นายเอาใครไปเป็นคนงาน”
“เด็กบ้านเสือขบชื่อ แบะแล้วก็ ชื่อ แก่ ครับ”
ผมถอนใจ “อ้ายสองตัวนี้มันมือหักโซ่”
“หมายความว่าไงครับพี่ ?”
“โซ่จะหักตอนใกล้เที่ยงใช่ไหม แล้วเจ้าของต้มไก่รอด้วยพร้อมเหล้า”
“โอ้ ! โห้ พี่นี่แสนรู้.....อุ๊ยๆๆขอโทษพี่” เขายกมือไหว้
“อ้ายเวร”ผมนึกในใจ..
“ตรงเป๊ะ เลยพี่”
“พอโซ่ขาดก็เลิกงาน กินเหล้าแกล้มต้มไก่”
“เป๊ะเลยพี่”
พวกมันรับน้องใหม่อย่างเอ็ง ไงล่ะ..
ผมชวนนรชาติไปกินเหล้าตอนเย็น เดี๋ยวข้าจะฝึกวิชาปราบมารให้ อ้ายน้อง!
**************************************
วันต่อมาผมนั่งทำงานที่สำนักงานถึงเย็นเพราะมีงานค้างอยู่ เกือบหกโมงเย็น นรชาติกลับมาจากท้องที่ วันนี้เขาไปรังวัดที่ ตำบลดอนพุด อ้ายแบะและอ้ายแก่เดินตามหลังมา ในมือถือเครื่องมือรังวัด..หน้าตามันทั้งสองบอกบุญไม่รับ..
ตรงกันข้ามกับ นรชาติ หน้าตาเบิกบาน..เขาเดินตรงมาที่ผมนั่งอยู่
“อยู่หมัดเลยพี่ ทำตามที่พี่บอก พวกมันหงอยไปเลย”
ผมแนะนำนรชาติว่า ถ้ามันแอบหักโซ่ ให้เอาโซ่หักๆนั่นแหละวัดต่อไป เหลือแค่ไหนเอาแค่นั้นวัด โซ่สั้นคนงานรังวัดก็จะลำบาก เพราะต้องขยับเส้นต่อเส้นมากขึ้น 100 เมตรแทนที่จะล่อห่วงแค่ 2 ครั้ง ถ้าโซ่สั้นต้องล่อห่วงมากครั้งขึ้นความลำบากของคนวัดก็เพิ่มมากขึ้น...นี่แหละวิชาหักเขี้ยว..สุนัข..
****************************************
ยังมีอีก พวกที่เอาเปรียบคนงานด้วยกัน ตอนเช้าๆตรงหน้าสำนักงาน พวกคนงานรังวัดจะมานั่งรอเพื่อไปกับลูกพี่ ส่วนมากจะนัดกันล่วงหน้าแล้ว
“พี่ๆๆวันนี้ผมปวดท้อง พี่หาคนอื่นแทนแล้วกัน” อ้ายแบะบอกกับช่างรังวัดคนหนึ่ง
“เฮ้ย ! มาบอกอะไรตอนนี้ แล้วข้าจะหาใครแทนได้ล่ะนี่ มึงนะมึง เสือกมาป่วยตอนนี้ ” เล่นเอาลูกพี่หัวเสีย เพราะต้องลำบากหาคนไปแทน
******************************************
แต่คนหัวดี แถไปหาช่างอีกคน
“พี่เบิ้ม วันนี้ผมขอออกด้วยนะพี่” อ้ายแบะยิ้มร่า
“ได้เลยๆ ไปกับกู” น้าเบิ้มยิ้มที่มุมปาก
อ้ายแบะคงไม่ได้ดูดวงก่อนออกจากบ้าน จึงกลายเป็นวันโลกาวินาศของมัน..
น้าเบิ้มกลับจากรังวัดเกือบมืด สภาพอ้ายแบะ..ที่เดินตามหลังมามอมแมมเหมือนไปฟัดกับน้องควายมา
ช่างเบิ้มหันมายักคิ้วกับผม..
กูรู้ว่าอ้ายนี่มันแสบ แต่ขอโทษเหนืออ้ายแบะยังมีกู...เบิ้ม บางเบิดเว้ย !...
มันเป็นไง น้า ?
“มันจะมาตอนเช้าๆแล้วแอบไปเปิดดูเรื่องรังวัดของช่างดูว่าช่างคนไหนรังวัดที่ไหนเนื้อที่มากหรือน้อย ถ้าเจอใครงานแปลงเล็กและวัดง่ายๆ ก็เข้าประกบอ้อนขอไปด้วย..ถ้าพบว่าใครงานแปลงใหญ่วัดยากและไปไกลๆแบบดอนพุด มันแทบไม่เฉียดเข้าไปใกล้ช่างคนนั้น กลัวถูกชวนไปด้วย”..
“แล้ววันนี้เป็นไง ? เมื่อเช้าเห็นมันมาอ้อนไปกับน้าไม่ใช่หรือ ?”
“ก็ไม่ไง ตอนเช้าข้าเอางานที่นัดรังวัดอาทิตย์หน้าเนื้อที่ แค่ 50 ตารางวามาใส่แฟ้มเอาไว้ มันมาแอบดูคง นึกว่าวันนี้รังวัดแค่ 50 ตารางวา”
“แล้วจริงๆ เท่าไหร่”
“ไม่มากหรอก น้อง แค่ 99 ไร่ขาดร้อยแค่ 1 ไร่ ทั้งไกล ทั้งรก คลองชลประทานตัดกลางแปลงอีกต่างหาก กว่าจะได้กินข้าวเที่ยงเกือบบ่ายสอง งานยังไม่เสร็จต้องออกมาทำต่ออีก กว่าจะเสร็จเล่นเอามืด ที่สะใจ อ้ายแบะหน้ามืดไปเลย คงเข็ดไปนาน สมน้ำหน้ามัน”....
บันทึกการเข้า
PeggySueGuerra
Full Member
กระทู้: 237
Re: คนงานรังวัด
«
ตอบ #1 เมื่อ:
สิงหาคม 08, 2010, 04:32:26 pm »
ดีใจที่คุณราสส์มาเล่าเรื่องสนุกๆให้ฟังอีก คิดว่าเป็นนิยายนะคะ ถ้าในชีวิตจริงมีลูกจ้างแบบนี้เยอะๆชาติคงไม่เจริญเป็นแน่
ขอทวงถามเรื่องคนเจ้าชู้ ถ้าเข้าใจถูกต้องรู้สึกว่าจะยังไม่จบ คงมีตอนต่อไปใช่ไหมคะ อย่าปล่อยให้แฟนๆรอนานนะคะ
บันทึกการเข้า
Rass
Full Member
กระทู้: 118
Re: คนงานรังวัด
«
ตอบ #2 เมื่อ:
สิงหาคม 10, 2010, 11:27:22 pm »
ขอบพระคุณพี่ เพ๊กกี้ฯ...
..อีกไม่นานจะนำคนเจ้าชู้มาลงครับ..
บันทึกการเข้า
ชุติมา-ประภัสสร
Global Moderator
Sr. Member
กระทู้: 446
Re: คนงานรังวัด
«
ตอบ #3 เมื่อ:
สิงหาคม 12, 2010, 02:24:53 am »
ตามเข้ามาอ่านค่ะ
หมู่นี้ไม่ค่อยได้อยู่กท.ค่ะ ก็เลยไม่ค่อยได้เข้ามา ขอบคุณที่ส่งเรื่องสั้นมาให้อ่านกันเป็นประจำนะคะ นั่นซิคะ อย่างที่คุณเพ็กกี้ถามเลย ตอนนี้แฟนประจำอย่างคุณอภิญญาก็หายเงียบไปเหมือนกัน สงสัยออกต่างจังหวัดอีกตามเคยนะคะ และแฟน ๆ อีกหลายท่านก็คงไม่ค่อยว่างเข้ามา เลยไม่ค่อยได้ยินเสียงตัวหนังสือจากท่าน ๆ เหล่านั้น อย่างไรก็ตามอยากบอกว่าพวกเราคิดถึงนะคะ
บันทึกการเข้า
อภิญญา
Full Member
กระทู้: 187
Re: คนงานรังวัด
«
ตอบ #4 เมื่อ:
กันยายน 19, 2010, 03:46:32 pm »
ตามมาอ่านนานแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้ตอบ วันนี้ได้ฤกษ์เลยทะยอยตอบไปเรื่อย ๆ ค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
Psevikul
>
มุมสนทนา
>
ห้องสมุดเรื่องสั้น
> หัวข้อ:
คนงานรังวัด
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
มุมสนทนา
-----------------------------
=> ชมรมรักการอ่าน - เขียนกับประภัสสร เสวิกุล
=> The ASEAN Writers Community
=> 60 หนาว-ร้อน ประภัสสร เสวิกุล
=> โต๊ะข้างหน้าต่าง
=> มุมกาแฟ - จิบกาแฟคุยกันเรื่องงานเขียน
=> มุมนอกชาน - งานอดิเรก
=> ชิงช้าหน้าบ้าน – ส่งผ่านเรื่องราวดีๆ
=> ห้องใหม่ ... ไว้ใส่กลอน
=> ห้องสมุดเรื่องสั้น
-----------------------------
วิธีการใช้งานเวบบอร์ด
-----------------------------
=> วิธีการใช้งานเวบบอร์ด
กำลังโหลด...
Powered by SMF 1.1.8
|
SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC
|
Thai language by ThaiSMF